บวช, บรรพชา, อุปสมบท |
|
อุปสมบท ณ อุโบรสมหาอุด แห่งวัดทรายขาว ต.ทรายขาว อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี พระอุปัชฌาย์ พระครูวิรัชโสภณ (พ่อท่านแดง) วัดศรีมหาโพธิ์ |
พระอริยะสงฆ์ผู้เปี่ยมด้วยเมตตา มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ท่านเป็นผู้หนึ่งที่นั่งเจริญพุทธมนต์ ในพิธีปลุกเสกหลวงปู่ทวด เนื้อว่าน รุ่นแรก วัดช้างให้ ปี พ.ศ. 2497 พระเครื่องที่ท่านสร้างก่อเกิดประสบการณ์มากมาย เช่น เหรียญรุ่นแรกของท่าน เหรียญหลังเสือ และที่สำคัญ คือเป็นผู้สร้างตำนานหลวงปู่ทวดรุ่น ห้าแซะ วัดศรีมหาโพธิ์ อันลือลั่น |
|
|
|
|
พระเดชพระครูหลวงปู่แก้ว เมื่อบวชแล้วได้ร่ำเรียนเวทมนต์คาถา จากพระอุปัชฌาย์และพระเถระอาจารย์รูปต่างๆ ของท่านจนหมดแล้ว ก็ได้ออกจาริธุดงควัตรไปตามสถานที่ต่างๆ จนมาถึงสถานที่สงบร่มเย็น ควรแก่การปฏิบัติพระกรรมฐานเพื่อพิจารณาอสุพะ นั่นก็คือ ป่าช้าควนข้าวแห้ง ดินแดนผีดุ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518 ถึง ปี พ.ศ. 2534 เป็นเวลาถึง 16 ปีๆ ปัจจุบันอายุ กว่า 100 ปี จนเวลาล่วงเลยมาหลายปีร่างท่านไม่แข็งแรงเหมือนก่อนท่านจึงตัดสินใจจำพรรษาที่วัดสะพานไม้แก่น อ.จะนะ จ.สงขลา เป็นการถาวร หลังจากที่ท่านมาจำพรรษาที่วัดสะพานไม้แก่น ได้พัฒนาอารามแห่งนี้จากสำนักสงฆ์เล็ก ๆ ให้กลายเป็นวัดที่ใหญ่โตสวยงามในเวลาเพียงไม่กี่ปี |
ท่านสามารถบำเพ็ญภาวนาจนบรรลุญาณระดับไหนอยากที่บุถุชนอย่างเราจะเดาได้ แต่เมื่อท่านได้ปลุกเสกวัตถุมงคลลงไปแล้วนั่น พระเครื่องของท่านเกิดประสบการณ์มากมาย สามารถหยุดปืน หยุดระเบิด สะกดพลัง สยบภูต ผีปิศาจจอมมารร้ายกระทั่งสัตว์ป่าอสรพิษ พระเครื่องของท่านมีประสบการณ์ จากเหตุการณ์สามจังหวัดชายแดนใต้มาแล้ว และสามารถสยบระเบิดที่เกาะบาหลีเมื่อไม่นานมานี้ และล่าสุดชาวมาเลเซียโดนกุญไสย (เวทมนต์สายดำ) หาผู้ที่มีวิชาทั่วทั้งมาเลเซียหมดแล้วก็ไม่สามารถแก้ไขได้ คณะลูกศิษย์ท่านจึงนำตัวมาที่วัดสะพานไม้แก่น ทันทีที่ลงจากรถปิกอัพที่หน้ากุฏิ มองไปที่หน้าของท่านก็เป็นลมหมดสติ (กลับหายเป็นปกติ) โดยที่ท่านยังไม่ทันทำอะไรเลย นับเป็นปาฎิหาริย์ที่เห็นกันจะๆในเรื่องของบารีของท่านชาวไทยและชาวมาเลเซียจึงเลื่อมใสศรัทธาในตัวท่านมากครับ |
|
|
ผลงานที่ท่านฝากไว้กับพระพุทธศาสนาหลังท่านมาจำพรรษาที่วัดสะพานไม้แก่น ในฐานะพระลูกวัด ท่านได้อุปถัมภ์การสร้างถาวรวัตถุให้เกิดขึ้นในวัดมากมาย และที่สำคัญ คือ พระอุโบรสอันสวยงามตระกานต์ตาใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่าสิบล้านบาท แต่ด้วยอาศัยบารมีของท่านสามารถสร้างเสร็จในปีเดียว และในงานพิธียกช่อฟ้า ปิดทอง ฝังลูกนิมิต ในวันที่ 10 ถึง 19 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ในงานดังกล่าว นายชวน หลีภัย อดีตนายกรัฐมนตรีให้เกรียติมาเป็นประธานเปิดงาน ได้งบประมาณเป็นยอดเงินประมาณ หกล้านบาท นับได้ว่ายากที่จะมีพระเถระรูปใดทำได้ นอกจากนี้ท่านยังเป็นขวัญและกำลังใจให้กับชาวบ้านในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้และจังหวัดใกล้เคียง ใครมาหาท่านไม่ว่าจะมียศฐานบรรดาศักดิ์หรือเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา ท่านก็ให้ความสำคัญเท่ากันหมด สามารถเข้าพบท่านได้ทุกคน ไม่ว่าจะมาหาให้ท่านช่วยอะไร ถ้าท่านช่วยได้ก็จะรีบแก้ไขให้ทันที และท่านมักจะแจกวัตถุมงคลให้ผู้ที่ไปกราบท่านไว้คุ้มภัยกันทั่วทุกคน นับเป็นความเมตตาอย่างยิ่ง จากคุณงามความดีดังกล่าวคณะสงฆ์จึงลงมติแต่ตั้งท่านเป็นพระครูชั้นสามัญ ที่พระครูอุปถัมภ์สารคุณ เมื่อปี พ.ศ. 2555 นี้เอง ยังความปิติยินดีให้กับคณะศิษยานุศิษย์ทั้งชาวไทยและมาเลเซียอย่างมากมาย |
|